วิธี เช็คสภาพผิวหน้า ด้วยตัวเองให้ผิวแข็งแรง!!!

วิธี เช็คสภาพผิวหน้า ด้วยตัวเองให้ผิวแข็งแรง!!!

เคยไหมพยายามดูแลผิวแทบตาย สุดท้ายผิวไม่ได้ดีขึ้นเลย!!! ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นกันนะ ทั้งๆ ที่เราก็ใช้สกินแคร์ตลอด แถมสกินแคร์ที่ใช้ ตัวไหนใครบอกว่าดีเราก็ไปซื้อมาใช้หมด แต่ทำไมพอเราเอามาใช้ผิวไม่ดีเหมือนคนอื่นเขา เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? นั่นก็เพราะว่าสภาพผิวของคนเราไม่เหมือนกัน สกินแคร์บางตัว ครีมดีๆ บางตัวก็ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา รวมถึงคนที่มีปัญหาผิวด้วย หรือ หากใช้สกินแคร์ หรือ ดูแลผิวผิดวิธีก็อาจทำให้ปัญหาผิวไม่หายไป มิหนำซ้ำยังอาจจะเป็นการทำให้ปัญหาผิวลุกลามหนักขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ยิ่งใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับผิว ก็อาจจะยิ่งทำให้ผิวเกิดปัญหาได้ง่าย เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะใช้อะไร เราควรที่จะรู้สภาพผิวของตัวเองก่อน ResiSKIN เลยจะมาแนะนำวิธี เช็คสภาพผิวหน้า ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผิวของเราจะเป็นแบบไหนกันนะอยากรู้ไปอ่านบทความเลย!

 

สั่งซื้อ ResiSKIN ครีมเวชสำอางสำหรับเสริมความแข็งแรงให้ทุกสภาพผิว คลิก !!

 

 

ความสำคัญของการรู้สภาพผิวหน้าของตัวเอง ?

หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าสภาพผิวของคนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แม้ภายนอกผิวจะดูเหมือนกันแต่จริงๆ แล้วโครงสร้างผิวภายในของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งมีความสำคัญอย่างมากต่อการดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองด้วย เพราะผิวมีทั้งแบบที่เป็น ผิวปกติ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และ ผิวแพ้ง่าย การที่เรารู้ว่าผิวของเราเป็นแบบไหน จะทำให้เราสามารถเลือกสกินแคร์ และ วิธีดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของเราได้

เช่น ถ้าเราเป็นคนผิวแห้งขาดน้ำ ก็ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หรือ ถ้าเรามีผิวแพ้ง่ายเราก็ต้องเลือกสกินแคร์ที่อ่อนโยน ไม่มีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิว

เพราะถ้าเลือกไม่ดีอาจทำให้ผิวยิ่งอ่อนแอลง อีกทั้งยังอาจจะทำให้มีปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ เช่น สิวเห่อ ผื่นขึ้น ผิวลอก เห็นแล้วใช่ไหมว่าการรู้จักสภาพผิวของตัวเองสำคัญมาก ซึ่งจะทำให้ผิวของเราดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะได้แก้ปัญหาผิวที่ตรงจุดนั่นเอง!

หากเลือกการดูแล หรือ สกินแคร์ไม่เหมาะกับผิวแม้ จะใช้เยอะแค่ไหนผิวก็ไม่ดีขึ้น

 

 

เราสามารถ เช็คสภาพผิวหน้า ได้กี่วิธี ?

หากพูดถึงการเช็คสภาพผิว หลายคนอาจจะคิดไปไกลว่าต้องไปเช็คที่คลินิก หรือ ต้องใช้เครื่องสแกนให้วุ่นวายเป็นแน่ แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถทำการเช็คสภาพผิวของเราเบื้องต้นได้ง่ายกว่านั้น!!! โดยที่เราไม่ต้องออกจากบ้าน และ ใช้เวลาไม่นานเลย

ResiSKIN จะมาบอกวิธีเช็คผิวง่ายๆ ที่คุณจะต้องอุทานว่า “รู้อย่างงี้ทำตั้งนานแล้ว” วิธีที่เราจะมาแนะนำคุณสามารถเลือกทำได้ถึง 3 วิธี หรือ ใครอยากจะให้ชัวร์ๆ ก็ให้ลองทำทั้งสามวิธีกันไปเลย จะมีวิธีไหนบ้างไปเช็คกันเลย

  1. ดูว่าระหว่างวันผิวเป็นอย่างไร – เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ที่เราสามารถประเมินผิวเบื้องต้นได้ นั่นก็คือการสังเกตผิว โดยให้เราดูว่าผิวของเราระหว่างวันเป็นอย่างไร และ ไม่ต้องไปทำอะไรกับผิว แต่ให้สังเกตว่าผิวมีความมันมากน้องเพียงใด มันบริเวณไหนบ้าง หรือ ผิวระหว่างวันดูแห้งขาดน้ำหรือไม่
  2. ลองล้างหน้าดู – หากใครที่ไม่ชอบวิธีที่ยุ่งยาก หรือ ใช้การสังเกตแล้วยังไม่สามารถแยกสภาพผิวได้ชัดเจน การเช็คสภาพผิวด้วยการล้างหน้านับว่าเป็นอะไรที่บอกได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะว่าผิวของเราหลังล้างหน้าเสร็จจะสามารถบอกสภาพผิวของเราได้ โดยการล้างหน้าควรจะล้างด้วยน้ำอุณหภูมิผิวปกติ และ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าใดๆ ร่วมด้วย เช่น โฟมล้างหน้า หรือ คลีนซิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้เราไม่รู้สภาพผิวจริงๆ ของเรา เมื่อเราล้างหน้าเสร็จแล้วให้รอประมาณ 30 นาที โดยที่ไม่ต้องไปซับ หรือ ทำอะไรกับหน้า แล้วจะเห็นได้ว่าผิวของเราเป็นแบบไหน
  3. ใช้กระดาษซับหน้ามัน – อีกหนึ่งไอเทมที่เรามักจะพกติดกระเป๋าเอาไว้ ส่วนใครที่ไม่มีก็สามารถไปซื้อได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไป โดยให้เราใช้กระดาษซับหน้ามันซับไปที่ใบหน้าตามจุดต่างๆ ทั้งบริเวณ T – Zone และ ข้างๆ แก้ม โดยให้ทำการสังเกตว่าเมื่อซับออกมาแล้ว บริเวณไหนที่หน้าของเรามีความมัน  (โดยดูจากกระดาษซับหน้ามัน ที่เมื่อเจอกับความมันจะเปลี่ยนสี จากสีของกระดาษเป็นสีใสๆ และ เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีความมันติดมาที่กระดาษซับหน้า)

เช็คสภาพผิวหน้า ดูสิว่าเราเป็นผิวแบบไหน ?

เมื่อเรารู้แล้วว่าวิธีในการเช็คผิวเบื้องต้นมีวิธีใดบ้าง ทีนี้มารู้จักสภาพผิวกันหน่อยดีกว่าว่าเมื่อเช็คออกมาแล้ว คุณเป็นคนที่มีผิวแบบไหน โดยการเช็คที่เห็นได้ชัดที่สุด คือการเช็คจากสภาพความมันของผิว และ ลักษณะของผิวที่แสดงออกมา โดยปกติผิวแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะที่ต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เลยทำให้เราสามารถแยกสภาพผิวได้ง่ายๆ มาดูกันดีกว่าว่าผิวแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง

ผิวปกติ

เช็คสภาพผิวหน้า

สภาพผิวปกติเป็น ผิวที่ไม่ค่อยจะพบปัญหาผิวอื่นๆ มากนัก เป็นผิวที่อยู่ระหว่างกลางๆ ไม่แห้งเกินไป ไม่มันเกินไป จนทำให้หลายคนจะเข้าใจผิดว่าเมื่อสังเกตใบหน้าเห็นผิวมันนิดๆ ก็คิดว่าเป็นผิวแห้ง แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นผิวปกตินี่เอง

โดยปกติผิวของคนเราจะมีความมันบนใบหน้าให้เห็นอยู่แล้ว เนื่องจากใบหน้าของเราจะมีต่อมไขมันอยู่ที่ใต้ชั้นผิว โดยเราจะสามารถแยกผิวปกติได้ง่ายมาก คนที่มีผิวรูปแบบนี้มักจะมีผิวเนียนเรียบ รูขุมขนเล็ก อีกทั้งผิวยังดูชุ่มชื้นพอประมาณ จะเห็นได้ชัดว่าผิวไม่แห้งไปไม่มันไป และ ไม่ค่อยมีปัญหาผิวให้เห็นมากนัก หากใช้วิธีเช็คผิวจะเห็นว่าจะมีความมันปรากฏบนหน้านิดๆ หน่อยๆ ตามจุดต่างๆ เป็นผิวที่เรียกได้ว่าโชคดีมาก เพราะดูแลผิวง่าย ส่วนใหญ่ต้องระวังไม่ให้ผิวแห้งจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวขาดน้ำจนแห้งตึงได้

ผลลัพธ์เมื่อทำการเช็คสภาพผิว

  • ผิวในระหว่างวันจะมีความมันเล็กน้อย เป็นผิวที่ไม่แห้งไปไม่มันจนเกินไป
  • เมื่อลองล้างหน้าดู ผิวจะไม่แห้งตึงเมื่อล้างหน้า
  • เมื่อใช้กระดาษซับหน้ามัน จะมีความมันติดมาเล็กน้อย และ เมื่อซับหน้า ใบหน้าก็จะไม่เคยเหลือความมันให้เห็นมากนัก เหมือนคนที่มีผิวมัน

ผิวแห้ง

เช็คสภาพผิวหน้า

ผิวแห้งก็เป็นอีกหนึ่งสภาพผิวที่เห็นได้ชัดเจน เป็นผิวที่จะพบความมันบนใบหน้าได้น้อยกว่าผิวรูปแบบอื่น เป็นผิวที่รูขุมขนจะเล็ก ผิวมักจะมีความแห้งดูไม่อิ่มน้ำ หากเอามือไปสัมผัสจะรู้สึกแห้งตึงได้ชัด และ หากหน้าแห้งมากๆ จะสังเกตเห็นรอยแตก เป็นขุยได้ชัดเจนมาก จะแตกต่างจากผิวปกติที่จะเห็นริ้วรอยได้ชัด โดยเฉพาะบริเวณ T – Zone ที่จะมีความมันน้อยมาก

อีกทั้งถ้าขาดการบำรุงก็จะมีปัญหาผิวตามมาได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้ง อย่างเช่นช่วงหน้าหนาว หรือ อยู่ในห้องแอร์นานๆ ใครที่หน้าแห้งต้องหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง เช่น การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะผิวยิ่งแห้งยิ่งไม่ดี เนื่องจากจะสูญเสียเกราะความชุ่มชื้น (Skin barrier) ที่คอยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ไปจนทำให้ผิวอ่อนแอลง

ผลลัพธ์เมื่อทำการเช็คสภาพผิว

  • ผิวระหว่างวันจะมีความแห้ง ผิวจะไม่ค่อยมันมากนัก จะมีความมันเล็กน้อย
  • เมื่อล้างหน้าผิวหน้าจะค่อนข้างแห้ง และ ตึง เนื่องจากผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เมื่อลองสัมผัสผิวจะรู้สึกว่าผิวแห้งอย่างเห็นได้ชัด
  • หากลองใช้กระดาษซับหน้ามัน จะไม่ค่อยพบความมันอยู่บนกระดาษมักนัก อาจจะมีความมันนิดๆ หน่อยๆ

ผิวมัน

ผิวมันเป็นผิวที่จะตรงข้ามกับคนที่มีผิวแห้งอย่างชัดเจน คนผิวมันจะมีน้ำมันบนผิวเยอะ จนทำให้หน้าดูมัน ดูเปียกอยู่ตลอด อีกทั้งหน้าก็จะค่อนข้างมันวาวได้ง่าย หากทำการเช็ดด้วยกระดาษซับหน้ามันจะเห็นได้ว่าความมันบนกระดาษจะค่อนข้างชัดเจน คนที่มีผิวมันมักจะเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้าง ทำให้น้ำมันในผิวออกมาเยอะ ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนหน้าก็จะยิ่งมันได้ง่าย คนผิวมันมักจะมีปัญหาผิวได้หลายอย่าง เพราะความมันถือว่าเป็นศัตรูของผิวเลยทีเดียว ยิ่งผิวมันยิ่งทำให้เกิดปัญหาผิวไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวผดร้อน รวมถึงสิวเสี้ยนด้วย

ผลลัพธ์เมื่อทำการเช็คสภาพผิว

  • ผิวมันในระหว่างวันจะสังเกตเห็นได้ชัดว่ามีความมันออกมา จนทำให้ใบหน้ามันวาว
  • เมื่อลองหน้าล้างดู ผิวจะไม่ค่อยแห้งมากนัก แต่หลังล้างหน้าไปสักพักความมันก็จะเริ่มมา แต่อาจจะไม่มันมากเท่าตอนก่อนที่จะล้างหน้า
  • เมื่อซับหน้าด้วยกระดาษซับหน้ามันจะเห็นว่า กระดาษเปลี่ยนสีอย่างชัดเจน และ มีความมันติดไปบนกระดาษจำนวนมาก บางคนอาจจะใช้กระดาษหลายแผ่นในการซับหน้า เพื่อให้ความมันลดลง

ใครที่เป็นคนผิวมันควรจะต้องหมั่นซับความมันบนใบหน้าบ่อยๆ อย่าให้หน้ามันจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ล้างหน้าบ่อยจนขาดความชุ่มชื้น หากจะใช้สกินแคร์ควรจะใช้ที่มีเนื้อเบาบาง ไม่หนักหน้า และ ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของผิว

>> อ่านบทความ 4 ปัญหาผิวหน้าร้อน เพิ่มเติมได้ที่นี่ <<

ผิวผสม

 

เป็นอีกหนึ่งสภาพผิวที่มีความก้ำกึ่งระหว่างผิวมัน และ ผิวแห้ง เป็นผิวที่จะมีความมันมากบริเวณ T – Zone (หน้าผาก จมูก คาง) โดยจะมันมากสุดในส่วนของหน้าผาก ส่วนจมูก และ คางจะมีความมันเล็กน้อย ส่วนบริเวณหน้าแก้มจะไม่ค่อยมันมากนักมักจะค่อนข้างแห้ง เป็นผิวที่ดูแลลำบากกว่าผิวรูปแบบอื่น เพราะหากดูแลไม่ดีอาจจะทำให้บริเวณจุดที่ผิวต่างกันเกิดปัญหาผิวได้ง่าย

เช่น ส่วนที่มันอาจจะเกิดสิวได้ ส่วนบริเวณที่แห้งอาจจะลอกเป็นขุยได้ ดังนั้นจะต้องดูแลให้ดี ส่วนวิธีในการเลือกสกินแคร์ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับผิวบริเวณนั้นๆ หรือ เลือกสกินแคร์ที่ระบุว่าสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว

ผลลัพธ์เมื่อทำการเช็คสภาพผิว

  • ในระหว่างวันผิวจะมีความมันให้เห็นบางในช่วง T – Zone และ ผิวบางส่วน เช่น ส่วนของหน้าแก้ม ก็จะมีความแห้งๆ
  • เมื่อลองล้างหน้าดู ผิวบริเวณที่แห้งจะค่อนข้างแห้งตึง และ ผิวส่วนที่มันก็จะยังมีความชุ่มชื้นอยู่บ้าง ไม่แห้งจนเกินไป
  • หากใช้กระดาษซับหน้ามันซับบริเวณที่เป็น T – Zone จะมีความมันติดมาเป็นจำนวนมาก ส่วนจุดอื่นจะไม่ค่อยมีความมันมากนัก

ผิวแพ้ง่าย

เช็คสภาพผิวหน้า

คนที่มีผิวแพ้ง่ายใบหน้าจะมีความมันน้อยคล้ายๆ กับคนที่มีผิวแห้ง ผิวจะมีลักษณะขาดความชุ่มชื้น และ อาจจะลอกเป็นขุยได้ง่าย เมื่อผิวแห้งมากๆ เพราะผิวขาดความชุ่มชื้นผิวมักจะเกิดรอยแดง คัน หรือ ผิวระคายเคืองได้ง่าย เป็นผิวที่อ่อนแอ และ บอบบางที่สุดในบรรดาทุกผิว ทำให้เมื่อไปสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น ฝุ่น สารเคมี สิ่งเจือปนต่างๆ หรือ พวกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของพวก น้ำหอม พาราเบน สีปรุงแต่งต่างๆ ก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้มาก เรียกว่าเป็นสภาพผิวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษที่สุด และ ต้องเลือกสกินแคร์ให้ดี ไม่เช่นนั้นผิวก็จะยิ่งบอบบางลง คนที่มีผิวแพ้ง่ายควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนจริงๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่งต่างๆ เพื่อเลี่ยงการแพ้

ผลลัพธ์เมื่อทำการเช็คสภาพผิว

  • ผิวระหว่างวันจะไม่ค่อยมันมากนัก และ อาจจะมีอาการแดง ระคายเคืองเกิดขึ้นได้
  • เมื่อทำการล้างหน้าผิวจะค่อนข้างแห้ง ตึง
  • เมื่อลองซับหน้าด้วยกระดาษซับหน้ามัน จะพบว่าไม่ค่อยมีความมันมากนัก

ใครที่อยากรู้ว่า พาราเบน คืออะไร และ อันตรายอย่างไร สามารถไปอ่านบทความข้างล่างนี้ได้เลย

>> อ่านบทความ พาราเบน คืออะไร? เพิ่มเติมได้ที่นี่ <<

การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว

สภาพผิวแต่ละแบบก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราควรที่จะเลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวนั้นๆ เพราะว่าถ้าเลือกไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดปัญหาผิวบางอย่างตามมา เช่น เป็นคนผิวมันแต่ไปใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของออยล์ หรือ เป็นเนื้อครีมที่หนัก ก็จะยิ่งทำให้หน้ายิ่งมัน และ เยิ้มได้ง่าย ส่งผลทำให้อาจเกิดการอุดตันจนเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และ ปัญหาผิวอื่นๆ ได้ อีกทั้งใครที่เป็นคนผิวแพ้ง่ายต้องระวังให้ดี เพราะหากใช้สกินแคร์ หรือ ครีมที่ไม่เหมาะกับผิว มีส่วนผสมที่ระคายเคืองอาจทำให้ผิวยิ่งแย่ลงกว่าเดิมได้ ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิว หรือ อยากได้สกินแคร์ที่อ่อนโยน ResiSKIN เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ที่ช่วยแก้ปัญหาผิว และ ทำให้ผิวชุ่มชื้น  เหมาะสำหรัยคนที่มักจะเจอกับปัญหาผิวกวนใจไม่หายสักที!!!

เช็คสภาพผิวหน้า ด้วย ResiSKIN

ResiSKIN เป็นครีมเวชสำอางที่เหมาะสำหรับคนมีปัญหาผิวแห้ง แดง ผื่น คัน และ ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย เพราะส่วนผสมในครีมที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน ให้ผิวสตรองพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ช่วยในการลดการระคายเคืองผิวจากผื่น 

  • มีส่วนผสมของ Extremolytes 7% สารสกัดลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศเยอรมัน ช่วยจบปัญหาผิวแห้ง แดง ผื่น คัน
  • ช่วยสร้างเกราะความชุ่มชื้นให้ผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะที่ไม่เป็นมิตรต่อผิว
  • ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ ภายใน 7 วัน
  • ปราศจากสารสเตียรอยด์ น้ำหอม และ สารกันเสีย สามารถใช้ต่อเนื่องในระยะยาว หมดกังวลสำหรับคนผิวแพ้ง่าย

ชนะทุกปัญหาผิว อักเสบ แพ้ แห้ง แดง ผื่นคัน ให้ผิวกลับมาดูดี และ สตรองอีกครั้ง จะปัญหาผิวแบบไหนก็เอาอยู่!!!

 

 

 

ใครที่สนใจสั่งซื้อ ResiSKIN สามารถกดที่ link ด้านล่างนี้ได้เลย

Facebook : ResiSKIN รีซิสกิน

Line : @resiskin

Shopee : ResiSKIN by QUALISK

Lazada : Qualimed

สมัครรับข่าวสารจากรีซิสกิน

* indicates required

ใส่ความเห็น