Checklist ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ พร้อมเคล็ดลับฟื้นฟูผิว!!!

Checklist ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ พร้อมเคล็ดลับฟื้นฟูผิว!!!

ระวังให้ดี!!! ครีมที่ช่วยให้หน้าใส ไร้สิว เป็นครีมในอุดมคติที่หลายคนต้องการ แต่รู้หรือไม่ว่าครีมที่ช่วยทำให้หน้าใสได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วอาจจะอันตรายกว่าที่คิด เพราะถึงแม้ครีมเหล่านี้จะทำให้หน้าของคุณขาวใสได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ก็อาจจะส่งผลข้างเคียงได้มากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากครีมเหล่านี้เป็น ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ เจือปนหากนำมาทาหน้า หรือ ทาผิวหนังแม้ว่าจะทาในระยะสั้นๆ ก็อาจทำให้ตัวครีมถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ และ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องอาจจะส่งผลต่อร่างกายทำให้เป็นโรคผิวหนังระยะยาว ดังนั้นเราจึงต้องทำการตรวจครีมให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้ ส่วนใครที่เผลอไปใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ผสมไปแล้ว ResiSKIN จะมาบอกวิธีดูแลผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมวิธีเช็คครีมว่ามีสารสเตียรอยด์ผสมหรือไม่ อยากรู้ไปอ่านบทความกันเลย!!!

สารสเตียรอยด์อันตรายกว่าที่คุณคิด ?

ครีมที่มีสเตียรอยด์

อันตรายจากการใช้ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ มักจะเกิดผลทั้งแบบเฉียบพลัน และ เมื่อใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องอาจส่งผลในระยะยาวได้ เนื่องจากสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสมที่ทำให้ผิวหนังของผู้ใช้บางลง ทำให้ผิวไวต่อมลภาวะต่างๆ จึงทำให้ผิวอ่อนแอลง ยิ่งเราใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ไปนานๆ ยิ่งทำให้หลอดเลือดใต้ผิวแตกง่าย อีกทั้งยังทำให้เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง อย่างเช่น เป็นสิวเรื้อรังที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายขาด

ผลข้างเคียงของสารสเตียรอยด์แบบเฉียบพลัน – เกิดขึ้นในกรณีที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์มากๆ หรือ มีความเข้มข้นสูง จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่รวดเร็วต่อผิวหนัง มักจะเกิดอาการระคายเคืองผิวขึ้น ทั้งผื่นแดง ผื่นร้อน ผิวหนังแห้งลอกเป็นขุย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของผิวหนังที่ตอบสนองต่อสิ่งระคายเคืองผิว

ผลข้างเคียงของสารสเตียรอยด์แบบระยะยาว – ครีมบางตัวอาจจะไม่ได้ใส่สารเสตียรอยด์หนักๆ แต่เมื่อเราใช้อย่างต่อเนื่องสารสเตียรอยด์จะไปสะสมในร่างกาย ในช่วงแรกๆ ที่ใช้อาจทำให้หน้าใส หน้าขาวแต่เมื่อมีสารสเตียรอยด์สะสมในร่างกายเรื่อยๆ จะทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดรอยคล้ำ รอยดำ เกิดฝ้าบนใบหน้า นอกจากนั้นแล้วอาจจะเกิดผลร้ายแรงอย่าง

  • หน้าบวม หน้ากลมจากการใช้สารเคมี สารสเตียรอยด์อาจทำให้หน้าเปลี่ยนรูปร่าง
  • เกิดรอยแตก เส้นเลือดที่หน้า เนื่องจากผิวบางลง และ สารซึมเข้าสู่กระแสเลือดเลยทำให้หลอดเลือดใต้ผิวแตกง่าย เนื่องจากคอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย
  • ผิวหนังซีด เป็นด่าง เกิดสิว รอยแดงแบบถาวร เป็นผลจากการอักเสบของผิวเป็นสาเหตุทำให้หน้าพัง

นอกจากอันตรายที่เกิดกับผิวบริเวณที่ทาแล้ว ยังอาจจะทำให้อาจจะเป็นโรคตับ โรคไตเป็นพิษ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ระบบประสาทเสื่อม ยิ่งหากคนที่ใช้กำลังตั้งครรภ์อาจจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ทำให้เด็กที่คลอดออกมาอาจจะพิการได้ เห็นไหมละคะว่าสารสเตียรอยด์อันตรายกว่าที่คุณคาดคิด!!!

วิธีสังเกตและหลีกเลี่ยง ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ ?

ครีมในปัจจุบันมีมากมายหลากหลายตัว หลายยี่ห้อแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าครีมตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงครีมที่มีสารสเตียรอยด์ผสม เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนที่เราจะนำครีมตัวนั้นมาใช้ เราจะสามารถสังเกตครีมได้ทั้งจาก

วิธีสังเกตและหลีกเลี่ยง ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ ?

ตรวจสอบภายนอก ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ว่ามีการบอกแหล่งที่มาหรือไม่

  • มีแหล่งที่มาชัดเจน / มีเลขอย. / เลขใบรับรองหรือไม่ – หากมีเลขอย. ต้องนำไปตรวจเช็คให้ดีก่อนใช้ เพราะอาจจะเป็นเลขปลอม และ ต้องตรวจสอบที่อยู่ของโรงงานผลิตว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
  • ดูสรรพคุณ และ โฆษณาว่าเกินความเป็นจริงหรือไม่ – หากสรรพคุณของครีมดูเกินจริง เช่น หน้าใสทันทีที่ใช้ สามารถรักษาได้ทุกอย่าง ก็อย่าไปใช้ เพราะไม่มีครีมตัวไหนที่จะรักษาได้ทุกอย่าง

พอเราตรวจสอบภายนอกจนแน่ใจระดับหนึ่งแล้วเราจะมา ตรวจสอบภายในเนื้อครีม โดยตรวจสอบตัวผลิตภัณฑ์ว่ามีสิ่งแปลกปลอม หรือ ผิดปกติหรือไม่

ตรวจสอบภายในเนื้อครีม โดยตรวจสอบตัวผลิตภัณฑ์ว่ามีสิ่งแปลกปลอม

  • ดูสีสันของตัวครีมว่าผิวปกติหรือไม่ – ส่วนมากครีมทั่วไปที่ได้มาตรฐานจะมีสีออกขาว ครีม เนื้อครีมจะโปร่งใส หรือ เป็นเจลที่สีไม่ข้นมาก หากสีของครีมเข้มจนเกินไป หรือ มีสีที่แตกต่างจากครีมทั่วไป ให้เลี่ยงการนำมาใช้เนื่องจากครีมที่สีสดๆ มักจะมีสารอันตรายผสมจึงทำให้ต้องใส่สีเพื่อกลบเนื้อสาร
  • กลิ่นของครีมแรงเกินไปหรือไม่ – ครีมปกติจะมีทั้งแบบไม่มีกลิ่น และ แบบมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ครีมที่มีสารสเตียรอยด์มักจะเป็นครีมที่มีกลิ่นแรงเนื่องจากมีกลิ่นของสารที่ชัดเจน แต่บางตัวก็อาจจะใส่น้ำหอมกลบ แต่กลิ่นน้ำหอมจะแรงจะผิดปกติ หากครีมตัวไหนมีกลิ่นแรงให้เลี่ยงการนำมาใช้
  • เนื้อครีมแยกชั้นกันหรือไม่ – หากตั้งครีมทิ้งเอาไว้แล้วตัวครีมแยกชั้นกันอย่างชัดเจน แสดงว่าตัวครีมมีส่วนผสมของสารอันตราย เพราะครีมที่ดีจะต้องผสมเข้าด้วยกันโดยไม่แยกชั้น หากครีมแยกชั้นไม่ควรที่จะนำมาใช้
  • ครีมที่ให้ผลเร็วจนเกินไปหรือไม่ – ไม่มีครีมตัวไหนที่จะออกผลได้เร็วจนเกินไป เพราะครีมที่ดีจะค่อยๆ ไปปรับสภาพผิวโดยไม่ให้โครงสร้างผิวเปลี่ยนแปลง แต่ครีมที่มีสารสเตียรอยด์จะไปเปลี่ยนโครงสร้างผิว ทำให้ได้ผลไว
  • เมื่อหยุดใช้ครีมเกิดผลข้างเคียงอะไรหรือไม่ – อันนี้เป็นข้อสำคัญที่ใช้ตรวจสอบครีมที่มีสารสเตียรอยด์ได้ดี เพราะครีมที่มีสเตียรอยด์ในช่วงที่ใช้งาน สเตียรอยด์จพไปกดภูมิคุ้มกันเอาไว้ทำให้ผิวทนทานต่อมลภาวะเป็นพิเศษ แต่เมื่อหยุดใช้ครีมภูมิคุ้มกันที่ถูกกดเอาไว้จะกลับมาทำงานมากกว่าเดิม ทำให้ผิวปรับสภาพไม่ทันจนเกิดการระคายเคืองขึ้น เป็นผลทำให้หน้าของเรามีรอยแดง รอยคล้ำ มีสิวเห่อขึ้นมาตามบริเวณที่เราทาครีมนั่นเอง ยิ่งใครที่ใช้ครีมต่อเนื่องเป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหาผิวถาวรที่แก้ไม่หาย!!!

กู้หน้าที่พังจาก ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ ได้อย่างไร ?

กู้หน้าที่พังจาก ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ ได้อย่างไร ?

ให้หยุดใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ทันที และ หยุดใช้ครีมทุกชนิดเพื่อเป็นการพักหน้า แต่หากใครที่ใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์มานานๆ อาจทำให้หิวเห่อหนักๆ ได้แต่ก็ให้อดทนเอาไว้ เมื่อพักหน้าระดับหนึ่งแล้ว จากนั้นให้ค่อยๆ ฟื้นฟูผิวจากภายในทั้งในเรื่องของอาหารการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอ นอกจากนั้นอาจจะต้องใช้ครีมที่ช่วยในเรื่องของการลดการระคายเคือง ช่วยฟื้นฟูผิวจากการติดสารสเตียรอยด์ และ ช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นมีสุขภาพดีดังเดิม โดยเราอยากจะแนะนำ ครีมเวชสำอางของ ResiSKIN ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับคนที่หน้าติดสารสเตียรอยด์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นครีมที่ช่วยในเรื่องของ

  • ช่วยในการเสริมเกราะป้องกันผิวจากการติดสารสเตียรอยด์ ทำให้ผิวหน้าของเรากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
  • ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น กลับมาอิ่มน้ำจากการติดสารสเตียรอยด์
  • ช่วยฟื้นฟูผิวจากการอักเสบ ระคายเคือง ที่มาจากสารสเตียรอยด์
  • ช่วยปกป้องผิวจากทุกสภาวะ และ ป้องกันปัญหาผิวกลับมาเป็นซ้ำ

ใครที่ผิวติดสารสเตียรอยด์แล้วผิวอ่อนแอไม่แข็งแรง ครีมเวชสำอางของ ResiSKIN นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ช่วยในเรื่องของการสร้างเกราะป้องกันผิวที่ถูกสารสเตียรอยด์ทำลายได้ดี ยิ่งผิวมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงยิ่งทำให้ผิวของเราสวย สุขภาพดี พร้อมลุยทุกมลภาวะ และ ไม่กลัวปัญหาผิวที่จะมารบกวน ปัญหาผิวติดสเตียรอยด์อาจจะใช้เวลาในการรักษา แต่ถ้าคุณดูแลอย่างต่อเนื่องรับรองได้เลยว่าผิวของคุณจะกลับมาแข็งแรงอย่างแน่นอน

>>อ่าน ผิวแข็งแรง คืออะไร พร้อมเคล็ดลับให้ผิวสตรองภายใน 7 วัน ได้ที่นี่<<

 

เอาชนะทุกปัญหาผิว อักเสบ แพ้ แห้ง แดง ผื่นคัน ให้ผิวกลับมาแข็งแรงด้วย ResiSKIN

 

 

ใครที่สนใจสั่งซื้อ ResiSKIN สามารถกดที่ link ด้านล่างนี้ได้เลย

Facebook : Resiskin by Qualisk

Line : @resiskin

Shopee : ResiSKIN by QUALISK

Lazada : Qualimed

 

สมัครรับข่าวสารจากรีซิสกิน

* indicates required

ใส่ความเห็น